8 ไอเดียปลูกไม้เลื้อยในแบบต่างๆ พร้อมบอกชนิดพรรณไม้ที่เหมาะกับการปลูก

ถือว่าเป็นโชคดีของบ้านเราที่สามารถปลูกไม้เลื้อยได้หลากหลายชนิด ความมหัศจรรย์ของไม้เลื้อยคือลำต้นที่สามารถทอดยาวเลื้อยพันสิ่งใกล้เคียงโดยมีอวัยวะพิเศษช่วยในการยึด ทำให้ไม้เลื้อยจำเป็นต้องมีที่หรืออุปกรณ์สำหรับช่วยยึดและพยุงต้นให้ลำต้นยืนได้ สามารถรับแสงแดดและแตกกิ่งก้านใบหรือออกดอกสวยงาม ซึ่งต้นไม้เลื้อยแต่ละชนิดก็มีลักษณะการยึดเกาะและความเหมาะสมที่แตกต่างกันไป รวมถึงนำไปปลูกและสร้างความสวยงามในสวนได้ต่างกัน เราจึงได้รวมไอเดียปลูกไม้เลื้อยในแบบต่างๆให้นำไปปลูกตามกันดังนี้ 1.ผนังระแนง วัตถุประสงค์หลักคือ เพื่อปกปิดสิ่งก่อสร้างที่ดูไม่สวยงาม ส่วนใหญ่จะใช้ต้นไม้เลื้อยที่มีรากพิเศษออกตามข้อที่สามารถเกาะแนบติดกับผนังได้ดี เช่น ตีนตุ๊กแก ไอวี่ และหัวใจแนบ ซึ่งผนังจำเป็นต้องมีผิวขรุขระและมีความชุ่มชื้นอยู่พอสมควร เช่น อิฐดินเผาหรือไม้เก่า นอกจากนั้นยังสามารถตีผนังด้วยระแนงหรือตาข่ายเพื่อปลูกต้นไม้ที่เถาไม่ใหญ่มากสามารถแตกกิ่งก้านยึดเกี่ยวได้ง่ายและมีมือพันขนาดเล็ก เช่น เหลืองชัชวาล พวงชมพู สร้อยอินทนิล เป็นต้น 2.โครงไม้เลื้อย สำหรับสวนที่มีพื้นที่ไม่มาก มีลักษณะแบบสวนอังกฤษหรือสวนที่ต้องการให้ไม้เลื้อยทำหน้าที่เหมือนต้นไม้พุ่มที่เป็นจุดเด่น  ใช้โครงไม้เลื้อยลวดลายหรือรูปทรงสวยงามน่าสนใจแล้วปล่อยให้ต้นไม้เลื้อยขึ้นพันโครงดังกล่าวแล้วตัดแต่งให้เข้ากับโครงไม้เลื้อยอยู่เสมอ ซึ่งต้นไม้ส่วนใหญ่มักเป็นต้นไม้พุ่มรอเลื้อยหรือกึ่งเลื้อยที่ขนาดต้นเล็กถึงกลาง ใบละเอียด ออกดอกง่าย  สามารถเลื้อยแบบพาดพิงหรือมียอดเลื้อยพันก็ได้แต่ต้องสามารถคงรูปทรงได้บ้าง ไม่โอนเอนติดดินและตัดแต่งเป็นลักษณะคล้ายต้นไม้พุ่มอยู่ได้ เช่น พวงแก้ว กุหลาบเลื้อย คอนสวรรค์  แฮ็ปปี้เนส เป็นต้น 3.ซุ้มไม้เลื้อย มักใช้พื้นที่บริเวณระเบียงหรือลานที่ใช้เป็นที่นั่งเล่นชมสวนหรือรับรองแขกได้ โดยมีเสาสำหรับรับน้ำหนักที่แข็งแรง 2 ต้นขึ้นไป มีคานและระแนงทำจากวัสดุแข็งเช่นเหล็กหรือไม้สำหรับให้ไม้เลื้อยทำหน้าที่เลื้อยพันไปมาและให้ร่มเงา ซึ่งต้นไม้ที่เลือกจำเป็นต้องเหมาะสมกับความแข็งแรงของซุ้ม โดยเฉพาะไม้เลื้อยที่มีลำต้นขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมากอย่าง หิรัญญิการ์ สะแกวัลย์ หรือเล็บมือนาง ส่วนใหญ่จะนิยมปลูกต้นไม้เลื้อยที่ออกดอกสะพรั่งสวยงามหรือมีกลิ่นหอมสดชื่นให้กับผู้ที่นั่งพักผ่อน  เช่น บานบุรี พวงคราม  พวงประดิษฐ์ […]

แม็คสไปซ์

Mac Spice วงศ์: Rosaceae ประเภท: กุหลาบกึ่งเลื้อย ลำต้น: เป็นกอใหญ่ กิ่งก้านยาวโน้มลง และเป็นพุ่มกว้าง ใบ: เล็ก สีเขียวเข้ม ดอก: เป็นช่อยาวที่ปลายกิ่ง ดอกบาน 3-4 ซม. สีม่วงอ่อนปนแดง มีประมาณ 10 กลีบ กลิ่นหอมอ่อน อัตราการเจริญเติบโต: ปานกลาง ดิน: ดินปนทราย มีอินทรียวัตถุ ระบายน้ำและอากาศดี ค่า pH 6-7 น้ำ: ปานกลาง ไม่ขังแฉะ แสงแดด: ตลอดวัน ขยายพันธุ์: เพาะเมล็ด ตอนกิ่ง ติดตา ปักชำกิ่ง การใช้งานและอื่นๆ: ปลูกเป็นต้นเดี่ยว หรือให้เลื้อยไปกับร้าน หรือเป็นไม้กระถาง เผยแพร่เมื่อปีค.ศ. 1983 (พ.ศ. 2526)

บารอนเอ็ดมองด์เดอรอธชิลด์เลื้อย

Climbing Baronne Edmond de Rothchild วงศ์: Rosaceae ประเภท: กุหลาบเลื้อย ลำต้น: เป็นกอใหญ่ กิ่งก้านใหญ่ ทอดยาว แข็งแรง ใบ: สีเขียวสด ดอก: เดี่ยวขนาดใหญ่ 8-10 ซม. สีชมพูเข้ม หลังกลีบสีจางหรือเหลือบขาว ซ้อนกัน 35-40 กลีบ กลิ่นหอมมาก อัตราการเจริญเติบโต: ปานกลาง ดิน: ดินปนทราย มีอินทรียวัตถุ ระบายน้ำและอากาศดี ค่า pH 6-7 น้ำ: ปานกลาง ไม่ขังแฉะ แสงแดด: ตลอดวัน ขยายพันธุ์: เพาะเมล็ด ตอนกิ่ง ติดตา ปักชำกิ่ง การใช้งานและอื่นๆ: ปลูกให้เลื้อยกับซุ้มโค้ง แต่โครงสร้างต้องแข็งแรง กลายพันธุ์จาก Baronne Edmond de Rothchild เผยแพร่เมื่อปีค.ศ. 1974 […]

แกลร์มาแต็ง

Clair Matin วงศ์: Rosaceae ประเภท: กุหลาบเลื้อย ลำต้น: เป็นกอใหญ่ กิ่งก้านใหญ่ เลื้อยสูง ใบ: สีเขียวเข้ม ดอก: เป็นช่อยาวที่ปลายกิ่ง ดอกบานขนาด 4-6 ซม. สีชมพูถึงม่วงอ่อน ซ้อนกัน 10-15 กลีบ กลิ่นหอม ให้ดอกดก อัตราการเจริญเติบโต: ปานกลาง ดิน: ดินปนทราย มีอินทรียวัตถุ ระบายน้ำและอากาศดี ค่า pH 6-7 น้ำ: ปานกลาง ไม่ขังแฉะ แสงแดด: ตลอดวัน ขยายพันธุ์: เพาะเมล็ด ตอนกิ่ง ติดตา ปักชำกิ่ง การใช้งานและอื่นๆ: สามารถปลูกเป็นกอเดี่ยว ปลูกในกระถาง หรือปลูกให้เลื้อยขึ้นร้าน ทำซุ้ม เผยแพร่เมื่อปีค.ศ. 1960 (พ.ศ. 2503)

เบลซ

Blaze วงศ์: Rosaceae ประเภท: กุหลาบเลื้อย ลำต้น: เป็นกอใหญ่ กิ่งก้านใหญ่ เลื้อยสูง ใบ: สีเขียวเข้ม ดอก: เป็นช่อ 3-5 ดอก ดอกบานรูปถ้วยขนาด 5-7 ซม. สีแดงถึงแดงม่วง ซ้อนกัน 10-15 กลีบ กลิ่นหอมอ่อน อัตราการเจริญเติบโต: ปานกลาง ดิน: ดินปนทราย มีอินทรียวัตถุ ระบายน้ำและอากาศดี ค่า pH 6-7 น้ำ: ปานกลาง ไม่ขังแฉะ แสงแดด: ตลอดวัน ขยายพันธุ์: เพาะเมล็ด ตอนกิ่ง ติดตา ปักชำกิ่ง การใช้งานและอื่นๆ: เหมาะปลูกให้เลื้อยขึ้นร้านหรือทำซุ้ม เผยแพร่เมื่อปีค.ศ. 1932 (พ.ศ. 2475)  

รางจืด

กำลังช้างเผือก/เครือเขาเขียว/ดูเหว่า/รางเย็น ชื่อวิทยาศาสตร์: Thunbergia laurifolia L. วงศ์: Acanthaceae ประเภท:ไม้เลื้อย อายุหลายปี ลำต้น: หรือเถามีเนื้อแข็ง เถามีสีเขียวสด ใบ: เดี่ยว รูปขอบขนานหรือรูปไข่เรียวยาว ออกตรงข้ามเป็นคู่ ๆ ปลายใบแหลมเป็นติ่ง โคนใบรูปหัวใจ ขอบใบเรียบหรือหยักเล็กน้อย ดอก: ออกเป็นช่อกระจะห้อยลงมาตามซอกใบหรือตามข้อ แต่ละช่อมี 3 – 4 ดอก ใบประดับสีขาว มีจุดประสีแดง ดอกขนาดใหญ่รูปแตร ปลายดอกแยกเป็น 5 กลีบ สีม่วงอ่อน สีฟ้าหรือสีขาว ภายในดอกมีเกสรเพศผู้ 4 อัน เมื่อดอกร่วงจะติดฝักตรงปลายแหลมคล้ายปากนก ผล: ฝัก เมื่อแก่แตกออกเป็น 2 ซีก อัตราการเจริญเติบโต:ปานกลาง ดิน: ดินร่วน ระบายน้ำดี น้ำ: ปานกลาง แสงแดด: เต็มวัน ขยายพันธุ์: ปักชำกิ่ง การใช้งานและอื่นๆ: […]